ทำ Reverse Engineering ในงบหลักหมื่นด้วย Fusion 360

ทำ Reverse Engineering ในงบหลักหมื่นด้วย Fusion 360

Home / APPLICATION / BLOG / ทำ Reverse Engineering ในงบหลักหมื่นด้วย Fusion 360

Reverse Engineering by Fusion 360 in Budget

การทำวิศวกรรมย้อนกลับ (Reverse Engineering) คืออะไร ?
การทำวิศวกรรมย้อนกลับ คือหนึ่งในวิธีการต่อยอดชิ้นงานออกแบบอย่างมีประสิทธิภาพ โดยอาศัยแบบจำลองเก่าเป็นผลิตภัณฑ์ต้นแบบและใช้เทคนิคการแยกชิ้นส่วนเพื่อสร้างโมเดลออกแบบใหม่ให้ดีกว่าเดิม เช่นการใช้ไฟล์สแกน 3 มิติในการปรับปรุงพัฒนาผลิตภัณฑ์, การใช้ไฟล์สแกน 3 มิติในการทำซ้ำชิ้นส่วนที่เสียหาย เป็นต้น ซึ่งการทำวิศวกรรมย้อนกลับ กำลังเป็นอีกหนึ่งวิธีที่ได้รับความนิยมสูงขึ้นเป็นอย่างมาก เพราะเป็นวิธีการที่สามารถช่วยต่อยอดผลิตภัณฑ์เดิมที่มีอยู่ได้ดีและสามารถช่วยลดระยะเวลาที่ต้องเสียไปจากการคิดค้นวิธีออกแบบใหม่

ตัวอย่างการใช้งานซอฟต์แวร์ Fusion 360 เพื่อการ Reverse Engineering

จากวีดีโอแสดงตัวอย่างวิธีการ Reverse Engineering แสดงให้เห็นว่าเครื่องมือทั้งหมดบน Fusion360 สามารถใช้งานได้จริงกับการทำงาน Reverse Engineering และที่สำคัญการใช้ Fusion360 ยังสามารถช่วยผู้ใช้ประหยัดเงินได้เป็นจำนวนมากการลงทุนซื้อซอฟต์แวร์เพื่อใช้ในการ Reverse

จุดเด่นของ Fusion360 ในการทำ Reverse Engineering

1. Fusion360 มีหน้าต่าง Mesh สำหรับการทำงานวิศวกรรมย้อนกลับ

(ภาพแสดงหน้าต่างฟังก์ชันสำหรับการจัดการ Mesh บน Fusion360)

Fusion360 สามารถนำเข้าไฟล์สแกนหรือไฟล์ Mesh มากไปกว่านั้นยังมีฟังก์ชันที่สามารถวิเคราะห์รูปร่างของ Mesh เพื่อนำไปใช้สเก็ตช์หรือใช้ขึ้นรูปต่อได้ รวมถึงยังมือเครื่องมือต่าง ๆ อีกมากมายที่สามารถประยุกต์ใช้ได้อย่างหลากหลายในการจัดการกับไฟล์สแกน 3 มิติ

2. Fusion360 สามารถนำเข้าไฟล์สแกนเพื่อทำการ Reverse Engineer ต่อได้

(ภาพซ้าย : แสดงไฟล์สแกน 3 มิติ, ภาพขวา : แสดง Mesh ที่นำเข้ามาใน Fusion360)

เนื่องด้วย Fusion360 เป็นหนึ่งในซอฟต์แวร์ที่รองรับไฟล์สแกน 3 มิติมาตรฐาน ช่วยให้ผู้ใช้สามารถจัดการกับไฟล์สแกน 3 มิติต่อได้ อาทิเช่น การทำวิศวกรรมย้อนกลับ เพื่อการซ่อมแซมหรือพัฒนาผลิตภัณฑ์

3. ฟีเจอร์ที่ดูคุ้นชินสำหรับผู้ที่เคยใช้ซอฟต์แวร์ออกแบบ CAD ทำให้ง่ายต่อการทำวิศวกรรมย้อนกลับ

ง่ายและสะดวกสบายสำหรับผู้ใช้ที่คุ้นชินกับซอฟต์แวร์ออกแบบ CAD อื่น ๆ เพราะ Fusion360 ก็มาพร้อมกับฟังก์ชันออกแบบที่ครบครันและ User-friendly เหมือนกัน ซึ่งฟีเจอร์ทั้งหมดที่ให้มาเพียงพอสามารถสร้าง 3D Model ได้อย่างสบาย

4. สามารถใช้เปรียบเทียบ CAD Model กับไฟล์สแกน 3 มิติได้เบื้องต้น

(ภาพแสดงการเปรียบเทียบ CAD Model กับไฟล์สแกน 3 มิติเบื้องต้นบน Fusion360)

การทำ Reverse Engineering บน Fusion360 สามารถเปรียบเทียบ Model CAD กับไฟล์สแกน 3 มิติได้เบื้องต้นด้วยตาเปล่า ทำให้ง่ายต่อการแก้ไขหรือปรับปรุงแบบงานให้มีขนาดลักษณะใกล้เคียงกับ Model เดิมให้ได้มากที่สุด

5. ลดค่าใช้จ่ายในการทำวิศวกรรมย้อนกลับ

(ภาพแสดงโมเดล 3 มิติที่ได้จากการทำการ Reverse Engineer บนซอฟต์แวร์ Fusion360)

เป็นที่ทราบกันดีอยู่แล้วว่าโปรแกรมที่ใช้ในการทำวิศวกรรมย้อนกลับ ส่วนใหญ่เป็นโปรแกรมที่มีราคาสูง ต่างจาก Fusion360 ที่เป็นซอฟต์แวร์ราคาย่อมเยาและยังมาพร้อมกับเครื่องมือที่เพียงพอสำหรับการทำ Reverse Engineer เบื้องต้นทำให้เป็นอีกหนึ่งทางเลือกของผู้ใช้และสามารถช่วยลดค่าใช้จ่ายที่อาจเสียไปจากการซื้อซอฟต์แวร์เกินความจำเป็นได้

6. ง่ายต่อการศึกษาใช้งาน สามารถเชื่อมต่อกับผู้ใช้งานอื่นหรือเพื่อนร่วมทีม

เนื่องจาก Fusion360 เป็นซอฟต์แวร์ออกแบบที่ทำงานบนระบบ Cloud-Based ทำให้มีโมเดลตัวอย่างให้ศึกษาอยู่เป็นจำนวนมากและยังสามารถเชื่อมต่อกับเพื่อนร่วมทีมได้ตลอดเวลา ทำให้ Fusion360 เป็นซอฟต์แวร์ที่เหมาะสมกับทั้งผู้ใช้ใหม่หรือผู้ที่ต้องการศึกษาเรื่องการออกแบบเพิ่มเติม จากข้อดีข้างต้นที่กล่าวมาจึงนับได้ว่า Fusion360 เป็นหนึ่งในซอฟต์แวร์เริ่มต้นที่ดีที่สุดที่มีอยู่ในตอนนี้

Sorasakon CADCAMTHAI
Sorasakon CADCAMTHAI

CADCAMTHAI Writer.

Share
Facebook
Twitter
Email
LinkedIn
WhatsApp

ติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม
หรือสนใจสั่งซื้อติดต่อ

📞 080-563-6090, 02-899-1182-4
📌 Line @cadcamthai
👉🏻 https://lin.ee/2mDwEF3